รองจากญี่ปุ่น ก็ไต้หวันนี่แหละที่เราคิดอยากกลับไปซ้ำบ่อยเวลาอยากพักผ่อนสักที่ ภาวะที่ไม่ได้อยากตื่นเต้น ผจญภัยอะไรมาก ไต้หวันเป็นเส้นทางที่ไปซ้ำได้ไม่เบื่อ บ้านเมืองสะอาด แถมอาหารอร่อยๆไม่แพง
ค่าครองชีพแบบกรุงเทพ แต่ได้คุณภาพชีวิตแบบญี่ปุ่น ไต้หวันครั้งนี้เป็นไทเปรอบที่สาม สำหรับเราเองไต้หวันกี่ครั้งถึงจะพอ ก็ยังคิดไม่ออก รู้แต่ไปได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ สองครั้งแรกเราใช้ชีวิตในไทเปทั้งหมด รอบนี้เริ่มออกไปโซนอื่น แน่ล่ะไต้หวันยังไงก็ยังเป็นไต้หวัน มีความละมุลและกลมกล่อมไปทุกพื้นที่ รอบนี้มาพักผ่อน ชิลชิล ( อีกละ ) เอ๊าก็บอกอยู่ว่าเลือกมาไต้หวันเพราะอยากมาพักโว๊ย!! ตามเราไปเที่ยวไต้หวันฉบับครอบครัว เน้นกิน เน้นพัก เน้นไหว้พระขอหวย สรุปไว้ให้ลอกแพลนพาคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า หรือเพื่อนๆ มาเที่ยวเองได้สบายๆ ค่ะ
เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยก่อนเที่ยวไต้หวัน
1.ไต้หวัน
ประเทศเกาะขนาดเล็กๆ ถ้าให้เทียบกับประเทศไทยเค้าว่ากันว่าไต้หวันทั้งเกาะมีขนาดเท่าประเทศไทยแค่ 6 จังหวัดเท่านั้น เล็กมากจริงจริง เป็นประเทศลูกครึ่ง ส่วนผสมของญี่ปุ่นและจีน คือคนอ่ะเชื้อชาติจีนแหละแต่เป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่นมานาน วัฒนธรรมเลยจะเหมือนคนญี่ปุ่นมากกว่า มีวินัย สะอาด แต่ก็ไม่เข้มงวดเท่า ยังมีส่วนผสมความสบายๆของวัฒนธรรมจีน เราเลยยกให้ที่นี่เป็นประเทศที่มีความตรงกลาง ไม่ตึงจนอึดอัด ไม่หย่อนยานจนน่าปวดหัว
2.การเดินทางในไต้หวัน
เดินทางภายในตัวเมือง
1) รถไฟฟ้า มีรถไฟจากสนามบินเข้าไทเป และรถไฟฟ้าในไทเปครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ เป็นรถสาธารณะที่ให้บริการในราคาสาธารณะ ไม่แพงจ้ะ
2) รถบัส เราถนัดรถไฟฟ้า หรือ taxi มากกว่า แต่บางพิกัด เช่น ตลาดปลา นั่งบัสจะเดินใกล้มากกว่านั่งรถไฟฟ้า เลยลองนั่งดู ปรากฎว่าการนั่งรถไฟฟ้ามาต่อบัส หรือนั่งบัสไปต่อรถไฟฟ้า กรณีใช้บัตร Easy card ระบบจะลดราคาให้อัตโนมัติเลย แถมบัตร easy card ยังสามารถใช้งานได้ตามร้านอาหาร / ร้านสะดวกซื้อได้อีกด้วย เติมเงินในบัตรที่เดียวแล้วเดินตัวปลิว ( อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้าง )
3) Taxi แท็กซี่ที่นี่ราคาโอเคเลย นั่งได้ รถก็ไม่ติดมาก มิเตอร์ขึ้นแล้วขาไม่สั่นเหมือนแท็กซี่ญี่ปุ่น เที่ยวสบายๆ ไปสามสี่คนนั่ง Taxi ก็สะดวกดีค่ะ
เดินทางระหว่างเมือง
มีทั้งรสบัส รถไฟ และรถไฟความเร็วสูง ถ้าสะดวกสุดและประหยัดเวลาได้ดีที่สุด เราก็แนะนำรถไฟความเร็วสูงไปเลยค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับเส้นทางการเดินทางอีกทีน๊า
3.เงินไต้หวัน
ไต้หวันใช้เงิน New Taiwan Dollar ค่าเงินไต้หวันเทียบกับค่าเงินบาท คิดง่ายๆเร็วๆเวลาซื้อของคือ 1 Taiwan dollr ~ 1 บาทไทย ( แต่ค่าเงินมีขึ้นลงทุกวันเช็คเรทที่ถูกต้องของแต่ละวันอีกทีนะจ้ะ ) แลกเป็นเงินไต้หวันไปเลยสะดวกกว่าค่ะ ไม่รับ USD นะจ้ะ บัตรเครดิต เดบิต ใช้ได้ปกติเกือบทุกที่ ไม่ต้องใช้ code เหมือนฝั่งยุโรป รูดบัตรแล้วเซ็นต์สลิปปกติเหมือนเมืองไทยเลย
4.อาหาร
เสน่ห์ของไต้หวันอันนี้คือสุดมาก อาหารไต้หวันเป็นสวนผสมของอาหารจีน และอาหารญี่ปุ่น ราคาเสมือนอยู่กรุงเทพ ค่อนข้างถูกปากคนไทย ความน่ารักอีกอย่างคือวัฒนธรรมการต่อคิวซื้ออาหาร ร้านที่คิวยาวยาวเราจะถือว่าอร่อย ส่วนตัวนี่ต่อแถวทันทีโดยไม่รู้เลยว่าขายอะไร ฮาาา เจอแถวที่ไหนต่อทันที เคยเขียนเรื่อง street food ของไต้หวันไว้ ใครชอบตามไปอ่านนะ ( เตือนก่อนว่าหิวแน่ ) ไต้หวัน 50,000 Kcal
5.ภาษา
คนไต้หวันพูดภาษาจีนกลาง ทักษะภาษาอังกฤษวัยรุ่นสมัยใหม่สื่อสารได้ดีเลย (ดีกว่าญี่ปุ่นอย่างชัดเจน) ป้ายบอกทางภาษาอังกฤษเยอะ คนรุ่นใหญ่ของไต้หวันส่วนใหญ่พูดภาษาญี่ปุ่นได้ เลยเห็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาเที่ยวไต้หวันกันเยอะมากไม่แพ้คนไทยเลย
6.ซิมการ์ด
ซื้อซิมจากไทยหรือซิมไต้หวันดี เราเคยลองแล้วทั้งสองอย่าง แนะนำซิมไต้หวันเลยดีกว่า เน็ตแรงไร้รอยต่อ unlimited ของจริง อัพภาพ / FB live / ลง stoty / เล่นไลน์ / ดูซีรีย์ ได้อย่างสบายไม่ต๊ะต่อนยอน ซื้อได้ที่สนามบิน (มีทั้งก่อนเข้าตม. และหลังจากรับกระเป๋าแล้วก็ซื้อได้ค่ะราคาเท่าๆกัน )
7.ไปไต้หวันบินสายการบินไหนดี ?
ไฟล์บินตรงจากเมืองไทยมีบินไปไทเปเยอะมาก แต่รอบนี้เราตั้งเป้าเที่ยวสองเมืองหลักๆคือ ไทเป-เกาสง ซึ่งเป็นเมืองทางเหนือ และเมืองทางใต้ ขาไปเลือกบินสบายสบายกับการบินไทยลงไทเป ขากลับบินสายการบินไทยสมายล์จากเกาสง บินตรงกลับกรุงเทพเลย ไม่ต้องเสียเวลาวกไปวนมาที่ไทเปอีกค่ะ
บินการบินไทยเวลาบินกำลังดี ไม่ต้องตื่นเช้ามาก ไปถึงเที่ยงๆ เที่ยวต่อได้เลย นั่งดูหนังเพลินๆ กินอาหาร อร่อยๆ 4 ชั่วโมงผ่านไปอย่างเร็ว แปปเดียวถึงไทเปซะแล้ว !
8.โรงแรม
เราใช้เจ้าประจำในการจองโรงแรมคือ www.booking.com จองตอนไหนก็ได้แล้วจ่ายเงินกับโรงแรมได้โดยตรง ช่วยให้ทริปยืดหยุ่นได้มากขึ้น เปลี่ยนแปลงปรับเปลี่ยนได้ตามที่สบายใจภายใต้ข้อกำหนดของแต่ละโรงแรม ( หมายเหตุ จองผ่านลิงค์goanywhere.co รับเงินคืน 550 บาท / booking หลังจากเข้าพัก เงินคืนผ่านทางบัตรเครดิต / visa กรณีจองที่พักครบ 2,000 บาทขึ้นไป )
7.วีซ่า
ไต้หวันประกาศฟรีวีซ่าปีต่อปี สามารถอยู่ในไต้หวันได้ 30 วัน ( เที่ยวกันยาวยาวได้เลย ) ตอนนี้อัพเดทฟรีวีซ่าถึงกรกฎาคม 2018 สำหรับปีต่อต่อไปต้องรอประกาศอีกที ขอให้ฟรีวีซ่ากันยาวๆก็จะเป็นพระคุณ
8.อากาศ
เที่ยวไต้หวันช่วงไหนดี เราว่าถ้าตั้งใจแค่ไปกินก็เที่ยวได้ทั้งปี กลางๆปีตั๋วก็จะถูกกว่าหน่อย แต่เสี่ยงพายุและฝนเยอะ ช่วงพายุที่ไต้หวันบอกเลยว่าลมแรงแบบปลิวได้ ถึงจะเอวไม่บางร่างไม่น้อยก็ตาม ช่วงที่เหมาะสุดเที่ยวสบายสุดคือช่วงหน้าหนาวธันวาคม – กุมภาพันธ์ และช่วงฤดูไม้ไม้ผลิมีนาคม – พฤษภาคม แต่เอาจริงช่วงหน้าฝนก็สวยไปอีกแบบ เพราะฉะนั้นสะดวกช่วงเดือนไหนก็ตามอัธยาศัยกันเลยจ้า
Reamark เครดิตข้อมูลสภาพอากาศไต้หวันจากskyscanner
เที่ยวไต้หวัน 5 วันไปไหนดี ?
ถึงไต้หวันจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่เอาจริงๆเที่ยวเป็นเดือนก็คงเก็บไม่ครบแหละ เพราะที่เที่ยวเยอะมาก !! และมากที่สุด เมืองที่ห้ามพลาดแน่นอนคือไทเป แต่อยากให้เพิ่ม #เกาสง เข้าไปอีกเมืองในลิส เมืองนี้คนไทยยังไปไม่เยอะเท่าไหร่ เป็นเมืองริมทะเลที่โคตรชิค เราสรุปแพลน 5 วัน เที่ยวแบบหลวมๆได้ตามนี้ค่ะ
DAY 1 BKK – Taipei / Chiang kai-shek memorial hall / Longshan Temple / Ximending Night market
DAY 2 National Palace Museum / Yangmingshan National Park / Taipe 101 Shilin Night Market
DAY 3 Taipei – Kaohsuing / Eda Theme Park / Cijing Island / Night cruise along Love River
DAY 4 Fo Guang Shan Monastery / Kaohsiung Sky walk Park
DAY 5 Dragon Tiger Pagoda / Dome of Light / Kaohsuing – BKK
กินเพลินเดินชิลณไทเป
001 ตึกไทเป 101
ตึกไทเป101 มีจำนวนทั้งหมด 101 ชั้น (และมีชั้นใต้ดินลึกลงไปอีก 5 ชั้น) นอกจากนี้แล้ว 101 ก็ยังมีความหมายว่า วันที่ 1 เดือน 1 คือวันปีใหม่ ซึ่งเป็นทำการ หมายถึงความมงคลที่ได้เริ่มต้นสิ่งใหม่ โดย เลข 0 เลข 1 เป็นเลขที่สื่อถึงความเป็น ดิจิตอล เทคโนโลยีอีกด้วย ( ล้ำเวอร์ )
ที่นี่นอกจากจะเป็นตึกที่สูงจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของไต้หวันแล้ว ยังเป็นเหมือนห้างสรรพสินค้าหลัก เทียบกับเมืองไทยก็คงประมาณพารากอน มีชอปของแบรนด์เนมทุกสิ่งรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ชอปปิ้งกันได้ยาวยาวจนฟ้ามืดเลยทีเดียว จุดเด่นอีกอย่างของการมาเที่ยวตึกไทเป 101 คือการขึ้นไปชมวิวมุมสูงของไทเป
สามารถซื้อตั๋วเข้าชมที่ชั้น 5 จะได้บัตรเข้าชมพร้อมบัตรส่วนลดในการซื้อสินค้าแถมมาด้วยค่ะ ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 88 แล้วหลังจากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปที่ชั้น 89 และ 91 ชมวิวไทเปจากมุมสูง วันที่เราไปฟ้าครึ้มเลยมองไทเปเป็นภาพมีหมอกปกคลุมทั่วเมือง ถึงไทเปจะมีตึกเยอะแน่นเต็มเมือง แต่ป่าไม้ ต้นไม้ก็ยังเยอะ เป็นส่วนผสมของป่ากับเมืองที่ลงตัว ถึงจะมีตึกที่โคตรสูง แต่ต้นไม้ใหญ่ ป่า ภูเขา ยังสามารถอยู่รวมตัวกับเมืองได้
ที่นี่เปิดทุกวัน 9.00 – 22.00 น. สามารถเข้าชมได้ตลอด คนเข้าเยอะมาก แต่เค้าก็มีระบบการจัดการที่ดีและลิฟต์เร็วมากเวอร์ ถึงคนจะเยอะแต่ก็รอไม่นานค่ะ
การเดินทาง : MRT สายสีแดง สถานี Taipei 101/ World Trade Center
พิกัดลับ : In Paradise การทานอาหารบุฟเฟต์ชมวิวตึก Taipei 101 อาหารอร่อยจนลืมดูวิวไปเลยจ้าเป็นบุฟเฟต์ที่เมนูคุณภาพมากมากอาหารอร่อยแถมวิวดี ระบบกระเพาะอาหารเลยทำงานได้ดีเป็นพิเศษ อิ่มจบแทบคลานกลับบ้าน
002 อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ก ( Chiang kai-shek memorial hall )
สถานที่ท่องเที่ยวหลักที่ต้องมาของเมืองไทเป เย็นๆก็เดินชิลๆดีค่ะ ถ้ามีแสงสักหน่อย ฟ้าไม่มัว จะสวยงามกว่านี้ ยิ่งได้ฟังประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเจียงไคเช็กแล้ว ทำให้ที่นี่ดูยิ่งใหญ่มากขึ้น คู่ควรแก่การมาเยือน
ไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดในการมาเที่ยวชมอนุสรณ์สถานเจียงไคเชก คือพิธีเปลี่ยนเวรทหาร ซึ่งจะมีทุกๆต้นชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 10:00-16:00 ของทุกวัน นอกจากนี้ก็จะมีพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาในตอนเช้าตรู่และในตอนเย็นด้วย เปิดทุกวัน : 9.00-18.00 น.
การเดินทาง : MRT สายสีน้ำเงิน สถานี CKS Memorial Hall Station ทางออก 5 / ถนน Zhongshan S. Zhongzheng District Taipei
พิกัดลับ : ชาไข่มุกเจ้าแรกในไต้หวันมีสาขาอยู่ที่นี่ด้วยแหละเดินหอบๆเหนื่อยๆแวะไปพักทานชานมที่นี่ได้ มีทั้งชานมและอาหารให้ทาน
003 วัดหลงซาน ( Longshan Temple )
เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทเป เราขอตั้งที่นี่เป็นวัดที่เป็น one stop service เพราะสามารถขอพรได้ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน การเรียน การเดินทาง และ ความรัก เป็นวัดเก่า ศักดิ์สิทธ์ และเป็นที่ศรัทธาของคนไต้หวันเป็นอย่างมาก
ขั้นตอนการไหว้ที่วัดหลงซาน ( สรุปมาไว้ให้จะได้ไม่เด๋อเข้าผิดประตูเหมือนเราจ้า )
1. หลังจากเดินผ่านซุ้มประตูขนาดใหญ่ตรงกลางเข้ามาในเขตรั้ววัดแล้ว ทางวัดจะกั้นทางเข้าลานในวัดตรงกลางเอาไว้เหลือ ประตูด้านข้าง 2 ข้าง ให้เดินเข้าทางประตูมังกรที่เมื่อยืนหันหน้าเข้าหาวัดประตูนี้จะอยู่ทางขวามือ
2. เมื่อผ่านประตูเข้ามาก็หยิบธูปมาไหว้ได้เลย ฟรี !
3. ให้จุดธูปไหว้ตามกระถางธูปซึ่งภายในวัดจะมีอยู่ทั้งหมด 7 กระถางด้วยกัน เรียงตามนี้คือ ตรงกลางลานสำหรับเจ้าแม่กวนอิม ตรงกลางถัดเข้าไปอีกหน่อยสำหรับเทพเทียนกง จากนั้นให้เดินเข้าไปด้านในจะมีกระถางธูปอีก 5 กระถางอยู่เรียงกัน ให้เริ่มวนจากขวาก่อนไปจนซ้ายสุด
4. ไหว้เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ออกทางประตูทางซ้าย ซึ่งเป็นประตูเสือ
หรือจำง่ายๆว่าให้วนจากขวาไปซ้ายตลอดแค่นั้นเองเข้าขวาออกซ้าย ( เข้าทางมังกรออกทางเสือ) ใช้ได้ทุกวัดในไต้หวันค่ะ
วิธีการไหว้สำหรับขอเนื้อคู่
1. จุดธูปสักการะที่กระถางธูปทั้งเจ็ด
2. เมื่อจุดถึงกระถางธูปใบที่เจ็ด ซึ่งตั้งอยู่หน้าศาลเจ้าเทพเฒ่าจันทรา ให้บอกวันเกิด, ชื่อ – นามสกุล, ที่อยู่ และเจตนา (หรือผู้ชาย / ผู้หญิงในสเปค) กับท่าน
3. ขอด้ายแดงจากท่านเพื่อนำพาให้เจอเนื้อคู่
4. โยนไม้เสี่ยงทาย โดยต้องออกคว่ำหงาย 3 รอบจึงจะหยิบด้ายแดง 1 เส้น
5. นำด้ายแดงเดินวนกระถางธูป 3 รอบ
6. เดินครบแล้วให้ไปที่หน้าศาลเจ้าและบอกวันเกิด, ชื่อ – นามสกุล, ที่อยู่ และเจตนาอีกครั้ง
7. นำด้ายแดงพกติดกระเป๋าไว้จะพบคู่ที่หมายปองและความสุข ( สาธุ )
วัดหลงซานเปิดให้บริการ 6.00-22.00 น. ช่วงเช้าและช่วงเย็นจะมีคนมาไหว้พระเยอะ 🙂 เราไปช่วงเย็นๆค่ำมี โชคดีมีช่วงเทศกาลโคมไฟพอดี เลยได้ไหว้พระและชมโคมไปยามค่ำคืนไปด้วยเลย
การเดินทาง : สายสีน้ำเงิน ลงสถานี Lhongshan Templeพิกัดลับ : อาหารไต้หวันแบบท้องถิ่นหันหน้าเข้าหาวัดอยู่ทางซ้ายมือแล้วเดินตรงไปจะเป็นซอยที่มีอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศแบบไต้หวันซุกซ่อนอยู่
004 พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง ( National Palace Museum )
เป็นพิพิธภัณท์ที่มีการจัดแสดงโบราณวัตถุที่มากที่สุดในโลก ถือเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของไต้หวัน รวบรวมของทั้งหมดในประวัติศาสตร์มารวมกันไว้ที่นี่ งานละเอียดบางอันใช้เวลาทำนานมาก ยอมใจคนโบราณจริงๆเลย เป็นบุญตามากที่ได้มาเห็นของเก่าแบบนี้ คนชอบของเราเชื่อว่าวนเวียนอยู่ในนี้ได้เป็นวันแน่
ภายในอาคารจัดแสดงหลักมีอยู่ด้วยกัน 4 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะทะยอยปิดเพื่อปรับปรุง และรักษาชิ้นงานให้มีความคงสภาพได้ดูที่สุด เพราะฉะนั้นเวลาไปอาจจะไม่ได้เห็นทุกชิ้นค่ะ
ชั้น 1 มีหนังสือหายากส่วนจัดแสดงนิทรรศการพิเศษเฟอร์โบราณในยุคราชวงศ์ฉิง (Qing Dynasty) และหมิง (Ming Dynasty) รูปปั้นด้านศาสนาและแกลอรี่ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละราชวงศ์จีน
ชั้น 2 จะเป็นภาพวาดภาพเขียนตัวอักษรงานเซรามิคต่างๆของจีนมีโซนที่เป็น Interactive และ Virtual Tour สำหรับภาพวาดที่มีชื่อเสียง 20 ภาพ
ชั้น 3 จัดแสดงเกี่ยวกับผลงานทองสำริด, อาวุธ, เครื่องประดับ, หยก, กาน้ำชาและงานแกะสลักจากยุคราชวงศ์ Ming และ Qing
ชั้น 4 จะมีร้านน้ำชาที่มีน้ำชาและติ่มซำให้บริการ
* ด้านในพิพิธภัณท์จะห้ามถ่ายรูปและต้องฝากกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่ตู้ Locker ด้านนอกขาตั้งกล้องก็ห้ามเข้าค่ะเพื่อนเราถือขา gopro เข้าไปยังห้ามเลยเจ้าหน้าที่ให้ถอดขาออกแล้วเอาเก็บไว้ในกระเป๋าจึงอนุญาติให้เข้าได้ค่ะ
การเดินทาง : สถานี Shilin, bus no. R30, 255, 304, 815
005 Yangmingshan National Park
อุทยานแห่งชาติหยางหมิงชาน แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในไทเป เนื่องจากเดินทางได้ง่ายและเป็นธรรมชาติที่สวยงามในระยะห่างจากไทเปแค่ 20 กม. แต่ละฤดูของหยางหมิงซานจุดน่าสนใจแตกต่างกัน
กุมภาพันธ์-พฤษภาคม ดอกซากุระช่วงเดือนกุมภาพันธ์, ดอกกุหลาบพันปีสีขาว, ดอก Calla Lilly
สิงหาคม- ตุลาคม ช่วงหน้าฝนแต่ก็จะเป็นช่วงที่สามารถมองเห็นสายรุ้งได้บ่อยครั้ง
ตุลาคม ลานหญ้าสีเงิน
ส่วนในหน้าหนาวก็มักจะเห็นหมอกหนาลอยปกคลุมตามเนินเขา เราไปช่วงมีนาคมซึ่งจริงๆแล้วเป็นช่วงซากุระกำลังบานแต่พายุเข้าเลยอดได้ชมความงาม ได้เจอแต่หมอกขาวปกคลุมทั่วบริเวณ นี่ไต้หวันหรือ
อาเจนตินาคะซิส ฟ้าขาวเชียว
006 เขาช้างหรือเซี่ยงซัน (Xiangshan)
ที่นี่เป็นพิกัดในการชมตึก Taipe 101 ที่สวยมาก ยิ่งชมตอนดวงอาทิตย์ตก จะสวยมากเป็นพิเศษ แต่ด้วยความที่เหนื่อยและขาสั้น เพราะต้องเดินขึ้นเขานิดหน่อย ( พอประมาณ ) ความที่ข้อเข่าเริ่มเสื่อมเลยไปไม่ทันดูดวงอาทิตย์ตก ได้วิวแสงไฟกลางคืนมาแทน สวยมากกก จะมาที่นี่เผื่อเวลาเอาไว้สักหน่อยนะคะ
วิธีการเดินทาง : สถานี Xiangshan, Exit 2 , นั่งรถไฟไปที่สถานี Cityhall หรือนั่งรถประจำทางไปยัง Yongchun Gang Park จากตึกไทเป 101 หรือเขต Xinyi เดิน 10 ถึง 15 นาทีหรือ 30 นาทีแล้วแต่ความชรา
007 ตลาดกลางคืนซือหลิน ( Shilin Night Market )
ไต้หวันมีตลาดกลางคืนเยอะมาก แค่ไทเปเองก็มีเป็นสิบตลาด ถ้ามีเวลาน้อยเลือกไม่ถูกว่าจะไปตลาดไหนดี มาที่นี่เลย น่าจะเป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในไปแล้ว ร้านรองเท้าเยอะ ABC / NIKE / ADIDAS มีทุกชอป ร้านชอปปิ้งเยอะ เสื้อผ้าไต้หวันก็นำเทรนกว่าบ้านเราอยู่เหมือนกัน ร้านอาหารแบบ street foods ก็เยอะ และอร่อยมากหลายอันเลย ทั้งซาลาเปาอบโอ่ง เบคอนพัน เค้กไต้หวัน น้ำไข่กบ น้ำมะระขาว เต้าหูเหม็น และนานาของกิน มาที่เดียวได้ครบเลย
การเดินทาง : รถไฟฟ้า สถานี Jiantan ถึงเลย ( เดินใกล้กว่าสถานี Shilin นะจ้ะ )
008 ย่านซีเหมินติงแหล่งช้อปปิ้งวัยรุ่น (Ximending Night Market)
ถ้าหัวใจยังคุกกรุ่นด้วยวัยรุ่น ต้องมาเดินที่นี่เลยจ้าาา ximending ที่นี่ไม่ใหญ่เท่า shilin แต่ของที่นี่จะเป็นรุ่นที่ทันสมัยมากกว่า และมีร้านคาเฟ่ ร้านอาหารเก๋ๆ อีกด้วย Hotpot หมาล่า ก็มีพิกัดแถวนี้ ไก่ทอด Hot star ก็หาทานได้ บะหมี่อาจงก็เด็ด ชานมไข่มุกมีเป็นสิบยี่สิบร้าน เลือกเลยอยากอ้วนแบบไหนมีให้ลองหมด เดินชิลๆ มีการแสดงมาโชว์ด้วยบ่อยๆ ที่นี่เดินได้ตั้งแต่กลางวัน วันหยุดจะมีลานขายของหน้าจตุรัสแดงด้วย
การเดินทาง : รถไฟฟ้า Ximen Station
เกาสง ( Kaohsuing )
เกาสง เมืองท่าที่สำคัญของไต้หวันทางใจ้ ไม่ได้เป็นเมืองฮิตแบบไทเป อาจจะเพราะดูเป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่จริงๆแล้วเราว่าเมืองนี้คือเมืองแห่งศิลปะซะมากกว่า เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การเดินทางมาที่นี่จะบินตรงจากเมืองไทยเลยก็ได้ มีไฟล์บินตรงจากกรุงเทพของ ไทยสมายล์วันละ 1 เที่ยว
BKK – KHH 10.00 – 14.20 | KHH – BKK 15.30 -18.00 จะบินตรงมาที่นี่เลย แล้วบินกลับจากไทยเป หรือจะบินลงไทเปแล้วบินกลับจากเกาสงเลยก็ได้จ้า
บนรถไฟมีน้ำและขนมแจกด้วยค่ะ เวลาเดินทางชั่วโมงครึ่ง ดูวิวข้างทางเพลินๆ นั่งแปปเดียวก็ถึงเกาสง เที่ยวไต้หวันสะดวกและง่ายมาก
009 Eda Theme Park
ดูแค่ชื่ออาจจะคิดว่าเป็นแค่ park แต่จริงๆแล้วที่นี่ถือว่าเป็นอาณาจักรใหญ่ใหญ่ของเมืองเกาสง มีทั้งโรงแรม สวนสนุก ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สนามกอล์ฟ รวมอยู่ในที่เดียวกัน ถ้าจะเรียกให้ถูกควรจะเรียกว่า Eda world เหมือนเป็นจังหวัดจังหวัดนึงเลยมีครบทุกอย่างในนี้
ที่นี่ได้รับความนิยมมากมีเด็กๆมารอเล่นสวนสนุกเต็มไปหมดเลย ส่วนเราได้ทีก็ชอปปิ้งซะก่อน ที่นี่มีแบรนด์ เนมครบทุกแบรนด์ ราคาค่อนข้างถูกมีสินค้าเยอะและก็กว้างมาก ของเซลล์เยอะด้วย ที่ชอบมากอีกอย่างคือ VR Station วีอาร์คืออะไร? จริงๆ แล้วคือเทคโนโลยี Virtual Reality เป็นเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง เพียงแค่ใส่แว่นวีอาร์ เราก็จะเห็นภาพแบบ 360 องศา เป็นภาพเสมือนจริง เราเล่นที่นี่ครั้งแรก ไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นยังไง แต่เล่นที่นี่สนุกมาก กรี๊ดลั่นป่าจนคนข้างๆตกใจแรง
website : http://www.edaroyaltheater.com.tw
GPS: 22.730749, 120.408891
010 Cijing Island ( เกาะฉีจิน )
เกาสงได้ชื่อว่าเมืองท่าริมทะเล เกาะฉีจิน บรรยากาศเหมือนพัทยาน้อย แต่คนน้อยกว่ามากมาก ที่นี่ไม่ได้มีน้ำทะเลที่ใสแจ๋ว หาดทรายที่นวลขาว แต่รวมๆกันแล้วเราว่ามีสเน่ห์มากมาก ทรายสีน้ำตาลออกดำ น้ำทะเลสีน้ำเงินเป็นทะเลที่โคตรมีเสน่ห์ ความสงบของที่นี่ดูดดึงให้เราใช้เวลาหมดไปแบบไม่ทันรู้ตัว
นอกจากนั้นยังมี จุดชมวิว Cihou Fort ที่สามารถชมวิวของเกาะได้ 360 องศา เดินขึ้นเข้ามาหน่อยไม่เหนื่อยมาก เดินเพลินๆมาเรื่อยๆ ก็จะเจอวิว เสียดายนิดหน่อยที่เราไม่ทันได้ดูดวงอาทิตย์ตกดินตรงนี้ ได้เจอแดดสีส้มอ่อนๆ ตอนช่วงเย็นๆ และลมเย็นๆ พร้อมวิวทะเลก็เป็นเรื่องที่พอจะแทนกันได้หน่อย 🙂
ชอบมากที่สุดคือวิถีชีวิตชาวบ้านแถบนี้ยังเป็นธรรมชาติ อากาศกำลังดีเดินเล่นชิลๆ ถ่ายรูปสนุก ชอบความแพทเทิร์นของอาคารบ้านเรือน และวิถีชีวิตแบบนี้ เหมือนเราได้เข้าถึงความเป็นไต้หวันจริงๆ ถึงที่นี่จะเป็นเมืองอุตสากรรมและเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากไทเป แต่ที่นี่ยังมีความเรียลอยู่เดินไปเพลินๆเผลอแปปเดียวเวลาหายไปเป็นชั่วโมง
การเดินทาง – KMRT สถานี Sizihwan ทางออก 1 จากนั้นเดินไปยังท่าเรือ Gushan Ferry Pier เพื่อต่อเรือไปยังเกาะ นั่ง ferry ไป 5 นาที เหมือนนั่งเรือข้ามฟากไปวังหลัง 🙂 นั่งเรือตอนช่วงเย็นๆ แดดสีส้มอ่อนๆ ทำให้ตึกกลายเป็นสีส้มจางๆ สวยจัง
011 Night cruise along Love River
Love River หรือ Kaohsiung Canal เป็นแม่น้ำที่สำคัญของเมืองเกาสง คู่รักที่มักจะพากันมาเดท ชมความสวยงามของแม่น้ำ ที่นี่จึงได้ฉายาว่า Love River
เราชอบที่นี่ตอนกลางคืนมาก นั่งริมแม่น้ำรับลมเย็นๆ ได้เบียร์สักป๋องนี่จบละ มีคนมาร้องเพลงเล่นดนตรี เต้นรำริมแม่น้ำ เพลินมาก นั่งดูไปสักพักก็ล่องเรือ ลมเย็นๆกับบรรยากาศริมแม่น้ำ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงได้ชื่อว่า Love River 🙂
012 Fo Guang Shan Monastery
ที่นี่เป็นวัดขนาดใหญ่ ลักษณะเหมือนเอาสวนและวัดมารวมกัน เป็นวัดพุทธที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเกาสง เป็นส่วนผสมของสถาปัตยกรรมจีน
เวลาเปิดปิด: วันธรรมดา เปิดเวลา 09.00 – 19.00 น. และวันหยุด เวลา 09.00 – 20.00 น.
การเดินทาง – KMRT สถานี Zuoying ทางออก 1
013 Kaohsiung Sky walk Park
sky walk สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเกาสง จุดชมวิวได้ 360 องศาเหมือนกัน ข้างบนมีพื้นกระจกไว้ให้เดินเสียวเล่นๆ ส่วนตัวไม่เสียวอะไร เพราะไม่ได้สูงมาก แต่เพื่อนๆก็ตื่นเต้นกับความเสียวๆแบบน่ารักนี้กันอยู่
014Dragon& Tiger Pagoda เจดีย์คู่แบบจีนที่สมบูรณ์แบบตั้งอยู่กลางทะเลสาบดอกบัว ด้านหน้าวัดฉือจี้(Ciji Temple) มีลักษณะเป็นเจดีย์สูง 7 ชั้นคู่กัน โดยจะมีรูปปั้นมังกรและเสือขนาดใหญ่เป็นทางเข้าเจดีย์ ให้เดินเข้าทางมังกรแล้วออกทางเสือ ตอนเดินทางให้กลั้นหายใจจนกว่าจะเดินออกมา อธิษฐานขอพรแล้วจะชีวิตสมหวัง ( หลอกฮ๋า ) จริงๆไม่ต้องกลั้นหายใจ การเดินเข้าทางมังกรออกทางเสือเป็นเคล็ดที่จะปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายในชีวิตเราออกไปแค่นั้นเอง เป็นเหมือนการสะเดาะห์เคราะห์ให้หายไป เพิ่มความเป็นศิริมงคลให้ชีวิต สาธุ !!
การเดินทาง : อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Zuoying Train Station ที่ไม่ใช่รถไฟใต้ดิน MRT แต่สามารถนั่ง MRT ไปลงที่สถานี MRT Zuoying Station แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟแทนเพื่อไปลงที่สถานี Zuoying Train Station ได้ จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร
015 Dome of Light สถานีรถไฟฟ้าที่สวยติดอับดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถานีรถไฟฟ้า Formosa Boulevard Station ออกแบบโดยศิลปินชื่อดังชาวอิตาลี Narcissus Quagliata โดมแห่งนี้สวยงามโดดเด่นด้วยสีสันของกระจกสี ที่บอกเรื่องราวของมนุษย์ใน 4 ธีม คือ น้ำ, โลก, แสง และไฟ Dome of Light
การเดินทาง – KMRT สถานี Formosa Boulevardพวกเราปิดท้ายกันที่นี่ก่อนเข้าไปสนามบินเกาสงเลย ไม่ต้องนั่งรถไฟความเร็วสูงกลับไปไทเป ไทยสมายล์เค้ามีไฟล์บินตรงจากเกาสง บินตรงสู่กทม.ได้เลย ประหยัดเวลาเที่ยว เอาเงินค่ารถไฟไปชอปปปิ้งสวยาวยไต้หวันห้าวันทำไมมันเร็วอย่างนี้ ยังไม่อยากกลับเลย แต่ก็ต้องกลับแล้วจะได้มาอีก ! ขอบคุณการบินไทย และไทยสมายล์มากมาก ที่ทำให้ทริปนี้สบายกว่าที่เคย นั่งการบินไทยเมื่อไหร่อบอุ่นใจเหมือนอยู่บ้านเสมอ รู้สึกเหมือนถึงไทยตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน
เที่ยวไต้หวันว่าอิ่มแล้ว ทานอาหารบนเครื่องอิ่มยิ่งกว่า คงได้เจอกันอีกทีไต้หวันรอบที่ 4 🙂
GO ANYWHERE :) 